Astronomy Handbook : ดาราศาสตร์ บทที่ 1
• ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนักดาราศาสตร์สมัครเล่น
การเข้าใจท้องฟ้า สำหรับการเริ่มต้นเป็นนักดาราศาสตร์ระดับสมัครเล่น เบื้องต้นจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจ ขนาดวัตถุที่อยู่ห่างไกลจากโลก ระดับการส่องสว่าง (โชติมาตร) การวัดมุมดาวบนท้องฟ้าด้วยนิ้วและมือ และสัญลักษณ์ที่ใช้บนแผ่นที่ดาว เพื่อใช้ประกอบการสังเกตการณ์ และต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ต้องมีเวลาฝึกฝนไปตามแต่ที่จะมีโอกาส สิ่งที่จะไม่ได้ผลคือ การละเลยการอ่านและศึกษา และต้องเรียนรู้สะสมไปทีละเรื่อง ทีละขั้น ไม่ควรข้ามขั้นมิฉะนั้นจะต้องย้อนกลับมาใหม่ การที่จะเริ่มต้นเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ จะประสบความสำเร็จได้ ทั่วไปควรมีคุณสมบัติดังนี้• ต้องมีความชอบด้านดาราศาสตร์ และสนใจจากความรู้สึกของตนเอง
• ต้องมีพื้นฐานความรู้ ด้านภาษาอังกฤษอย่างน้อยพอประมาณ
• ต้องมีเวลาเพียงพอที่จะแบ่งปันในการสังเกตการณ์ในภาคสนาม
• ต้องมีทุนทรัพย์พอประมาณสำหรับซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือ
• สิ่งที่จะได้จากวิชาดาราศาสตร์
• ความรู้บนท้องฟ้าเป็นสิ่งไกลตัว ไม่สามารถจับต้องได้ แต่หากเราเข้าใจสิ่งไกลตัวจากการสังเกตการณ์ แสดงว่าผู้นั้นมีความสามารถในการจินตนาการเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ เป็นการฝึกฝนวิธีคิด วิธีพิจารณาอย่างเป็นขบวนการ เป็นการคิดอย่างประจักษ์แบบวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจะสามารถใช้วิธีคิดนี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว (บนโลก) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• การที่ถูกฝึกฝนในการสังเกตสิ่งเล็กๆ ค่อยติดตามความเคลื่อนไหวบนท้องฟ้า จะช่วยให้มีนิสัยที่ละเอียดรอบครอบมากขึ้น และในการสังเกตการณ์ท้องฟ้า จำเป็นต้อง ตรวจสอบสภาพอากาศ จัดเตรียมอุปกรณ์ เวลาเดินทาง และเตรียมการเพื่อสถานที่ที่จะไป สิ่งเหล่านี้เป็นการสอนให้เกิดการวางแผนล่วงหน้า จะทำให้ติดเป็นนิสัยสำหรับการใช้ประกอบอาชีพในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น
• นอกจากการมองเห็นความงามของจักรวาลแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในจักรวาลมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าโลกนับไม่ถ้วน เมื่อเห็นภาพจริงของจักรวาล คิดนำมาเปรียบเทียบกับตนเองจะทำให้รับรู้ได้ว่า ตนเองเป็นเพียงเศษเล็กเศษน้อยของจักรวาล แทบไม่มีค่าใดๆ คงจะช่วยให้ตระหนักถึงจิตสำนักที่ดีต่อสังคมว่าทุกคนไม่ใช่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ใดๆ และทุกสิ่งในจักรวาลมิเคยดำรงอยู่นิรันดร์ ทุกอย่างจะจบสิ้นไปตามกาลเวลาของอายุขัยไม่มีข้อยกเว้น
"เคยมีผู้ถามเราว่า ถ้าจะให้บุตรหลานศึกษาดาราศาสตร์ แล้วจะได้ประโยชน์อะไร ในชีวิตประจําวันบ้าง เราตอบไปว่า วิชาดาราศาสตร์ มิเพียงเห็นความงามของ จักรวาลเท่า นั้น ความสําคัญยิ่งใหญ่ที่แฝงไว้คือ ความเป็นอภิปรัชญา จะคิด เข้าใจเปรียบเทียบตัวเอง เป็นเพียงเศษธุลี มิได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ใดๆ ไม่ว่าด้วย อํานาจ ด้วยความรู้และอายุขัย เมื่อเทียบ กับสิ่งที่ปรากฎในจักรวาล เมื่อเข้าใจ สิ่งนี้ได้ จะช่วยขัดเกลา ลดความหยิ่งในศักดิ์หรือฐานะ ลดการแสดงอํานาจบาท ใหญ่ต่อผู้อื่น เพราะจะสามารถประเมินตนด้วยเหตุผลที่ประจักษ์ทางวิทยาศาสตร์ ทําให้เกิดจิตสํานึกดี ประพฤติตนอยู่ในกรอบที่เหมาะสมต่อคนรอบข้าง กลาย เป็นความเอื้อเฟื้อต่อกันมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็สามารถลดปัญหาต่อสังคมได้"
• ขนาดของดาว
โลกอยู่ในระบบสุริยะ ระบบสุริยะอยู่ในกาแล็คซี่ทางช้างเผือก ซึ่งมีดาวมากกว่า 400 พันล้านดาว มีความกว้างประมาณ 100,000 - 120,000 ปี ดังนั้นในทางช้างเผือกมีระบบสุริยะอิ่นๆอีกนับล้านระบบ จากโลกเราจะมองเห็นดาวเหล่านั้นเพราะมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเรา (ยกเว้นดาวพุธ ดาวอังคาร ดวงจันทร์ของเราและดวงจันทร์บางดวง ในระบบสุริยะของเราที่มีขนาดเล็กกว่าโลก)การที่เรามองเห็นดาวฤกษ์เป็นเพียงจุดเล็กๆบนท้องฟ้าในทุกๆคืนที่ปรากฎขึ้นจนชินตา ดาวเหล่านั้นมีระยะไกล แม้ว่าจะใช้กล้องโทรทรรศน์มอง ก็อาจขยายใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่หากเป็นกระจุกดาวที่มีจำนวนในแต่ละกลุ่ม นับแสนนับล้านดวงก็จะมีความสวยงามน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก การเห็นเป็นจำนวนมากของกลุ่มดาวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพท้องฟ้าในขณะนั้น และประสิทธิภาพของกล้องก็เป็นหัวใจสำคัญ
เฉพาะในทางช้างเผือก มีกระจุกดาวมากกว่า 200 กระจุก มีเนบิวล่าที่สำรวจพบจำนวนหลักพันแหล่ง การค้นหาวัตถุเหล่านั้นเราต้องรู้จัก กลุ่มดาวทั้งหมด 88 กลุ่ม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นสิ่งที่ใช้อ้างอิงตำแหน่งในการค้นหา จากแผนที่ดาวที่ระบุไว้ หากเราไม่รู้จักกลุ่มดาว เราจะไม่สามารถหาวัตถุบนท้องฟ้าได้อย่างถูกต้อง
ความเข้าใจในเรื่องขนาดของดาวจึงเป็นสิ่งแรกเพื่อให้ทราบว่า ระยะทางนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญร่วมกันในเรื่องขนาดของดาว หรือขนาดกลุ่มวัตถุต่อการสำรวจท้องฟ้า ว่าบางสิ่งที่มองเห็นได้ หรือมองเห็นไม่ได้
• มาตราส่วนบนท้องฟ้า
บนท้องฟ้าเราสามารถมองเห็นดาวด้วยตาเปล่าประมาณ 7,000-8,000 ดวง นั้นหมายความว่าดาวเหล่านั้รมีความสุกใส แม้ว่าในปัจจุบันมี App แผนที่ดาวสามารถช่วยค้นหาวัตถุบนท้องฟ้าได้ง่ายขึ้น แต่พื้นฐานความเข้าใจองศาของพิกัดดาว ที่อาศัยนิ้วและมือยังถือว่าเป็นสิ่งที่ยังมีความจำเป็นไม่น้อย การฝึกสังเกตการณ์บ่อยๆ จะช่วยให้จดจำตำแหน่งดาวที่สำคัญได้ และการเข้าใจรูปลักษณ์ของกลุ่มดาวยิ่งช่วยให้มองหาวัตถุบนท้องฟ้าได้รวดเร็วแม้ว่ากลุ่มดาวทั้งหมดมีถึง 88 กลุ่มก็ตาม หากสามารถจดจำได้สัก 20 กลุ่ม จะทำให้การดูดาวเป็นเรื่องง่าย และโปรดจำไว้เสมอว่า การสังเกตการณ์จริงเท่านั้นที่จะทำให้ เข้าใจลึกซึ้ง มากที่สุด การดูแผนที่ดาวจาก App เพียงอย่างเดียวไม่ได้สังเกตการณ์จริง จะไม่ช่วยให้เกิดความชำนาญได้ดีเท่าที่ควร ควรใช้นิ้วและมือวัดมาตราส่วนบนท้องฟ้า ร่วมกับ App แผนที่ดาว ในการฝีกฝนจะช่วยให้ชำนาญและเข้าใจได้รวดเร็วขึ้น โดยสามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
วิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยมองท้องฟ้าด้วยตาเปล่า เพื่อทดสอบความตั้งใจที่จะเริ่มเรียนรู้ก่อน ว่าตนเองพร้อมที่จะเริ่มต้นศึกษาเพียงใด และหากมั่นใจแล้วจึงคิดซื้อกล้องดูดาว ในลำดับต่อไป
•โชติมาตรปรากฎ
มาตรวัดความสว่างหรือโชติมาตร แสดงให้ทราบถึงค่าความสุกสว่าง สุกใส ของวัตถุในท้องฟ้าประภทต่างๆ เช่น ดาวเทียม ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง ดวงอาทิตย์ ฯลฯ ทั้งนี้เป็นค่าแสดงให้ทราบระดับค่าความสว่าง ต่อการสังเกตโดยใช้ตาเปล่า หรือกล้องดูดาวเพื่อค้นหา ดาวหรือวัตถุนั้น เพื่อให้ทราบว่าสามารถมองเห็นได้ด้วยวิธีใด เช่น ด้วยตาเปล่า ด้วยกล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ เป็นต้นสำหรับโชติมาตรปรากฎ คือ ความสว่างสุกใสของดาวที่มองจากโลกโดยไม่คำนึ่งถึงระยะทาง ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยสายตามนุษย์มองจากโลก ด้วยตาเปล่ามองเห็นไม่เกินค่าความสว่าง 6 Magnitude [mag.] สามารถเห็นดาวในขอบเขตประมาณ 300-500 ปีแสง (โดยขึ้นอยู่กับขนาดของดาวด้วย) แต่จะไม่เกิน 1,000 ปีแสงโดยเฉลี่ย ส่วนกล้องดูดาวคุณภาพสูงทั่วไปมีค่าความสว่าง ประมาณ 10-12 Magnitude [mag.] ทั้งนี้มีองค์ประกอบจากสภาพอากาศ เช่น หมอกเมฆ หรือแสงต่างๆจากถนนบ้านเรือน แม้แต่แสงจากดวงจันทร์มารบกวนด้วยหรือไม่
สำหรับเทคนิคการสังเกตุท้องฟ้า ก่อนดูดาวควรใช้สายตาปรับความพร้อมด้วยการมองในที่มืดราว 5 นาที ขณะดูดาวควรใช้ไฟฉายแสงสีแดง จะช่วยมิให้สายตาล้า จากการมองสลับไปมาระหว่างที่สว่างและมืด แสดงค่ายิ่งน้อยแสดงว่ายิ่งสว่างมาก เช่น ดวงอาทิตย์ ค่าความสว่าง = -26.8 Magnitude [mag.] ดาว Sirius = -1.5 Magnitude [mag.] ดาวเคราะห์น้อย = +15 Magnitude [mag.] ขึ้นไปเป็นต้น ซึ่งเมื่อมีตัวเลข + มากขึ้นจะยิ่งมองเห็นยากตามลำดับ จะต้องใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นตามลำดับ
อนึ่งดาวแต่ละกลุ่มที่ปรากฎบนท้องฟ้า แม้ว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันแต่ทุกดวงมีระยะทางที่ห่างกัน มิได้มีตำแหน่งในระนาบเดียวกัน บางดาวมีขนาดใหญ่แต่อยู่ไกลออกไป มองจากโลกจึงดูเล็กและสว่างน้อย ในทางกลับกันบางดวงมีขนาดเล็กแต่อยู่ใกล้ จากโลกจึงมองเห็นสว่างสุกใสและใหญ่กว่า
• สัญลักษณ์ดาราศาสตร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น